พระองค์เจก-พระองค์จอม

พระองค์เจก-พระองค์จอม หรือเนียงเจก เนียงจอม เป็นชื่อที่ชาวกัมพูชาเรียกพระสององค์ทำจากทองคำและทองแดงน้ำหนักถึง 150 กิโลกรัม องค์ใหญ่ชื่อ”เนียงเจก” และองค์เล็ก”เนียงจอม”

ไม่มีหลักฐานใดๆที่บงบอกชัดเจนว่าทั้งสององค์เป็นใครมากไหน แต่มีการเล่าต่อ ๆ กันหลายยุคหลายสมัยว่า ทั้งสององค์เป็นพี่น้องกัน และเป็นพระธิดาของพระเจ้าสุริยะวรรมันที่ 2 พระมหากษัตริย์ที่สร้างปราสาทนครวัด

สาเหตุที่ผู้คนศรัทธา พระเนียงเจก พระเนียงจอม เนื่องจากว่าพระธิดาทั้งสององค์ มีความเมรตตา กรุณา และเอาใจใส่ ทำแต่ความดีกับอาณาประชาราษฎร์ พระธิดาสอนให้นักโทษทั้งหลายทั้งปวงรู้จักประติบัติต้นและทำความดีตามแบบพระพุทธเจ้า แล้วได้โปรดปลดปล่อยนักโทษเหล่านั้นให้มีเสรีภาพอีกด้วย

เพราะชื่อเสียงและความดีของพระธิดาทั้งสองที่เล่าขานต่อกันมาหลายร้อยปีนั้น และพระธิดาทั้งสองเป็นผู้นับถือศาสนาพุทธอย่างจริงจัง

ต่อมาในยุคของพระบาทองค์จันท์ราชา ในศตวรรษที่ 16 พระองค์ได้สั่งให้ช่างทำเป็นพระพุทธรูปขึ้นมา และประดิษฐานในบริเวณปราสาทนครวัด เพื่อให้อาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ได้สักการะ

ด้วยบารมีและความศักดิ์สิทธิ์ พระเนียงเจก พระเนียงจอม ได้ทำให้อาณาประชาราษฎร์อยู่อย่างเป็นสุข และเจริญรุ่งเรื่องขึ้นมา อาณาประชาราษฎร์ทั่วประเทศก็เลยเชื่อถือ และ เคารพประติบัติพระองค์ตลอดจนถึงปัจจุบัน

บารมี และความศักดิ์สิทธิ์ของ พระเนียงเจก เนียงจอม เป็นข่าวดังทั่วประเทศ ทำให้ผู้มีอำนาจบางคน และ พ่อค่าทุจริตหวังจะเอามาครองและค้าขาย ตลอดจนถึงมีการวางแผนขโมย แล้วในเวลาต่อมาพระทั้งสององค์ก็ไม่มีข่าวว่าไปอยู่ที่ไหน ตลอดจนถึงปี ค.ศ 1950 หนวยงานอนุรักษ์อังกอร์ค้นพบในป่าบริเวณนครธมแล้วได้เอาไปเก็บไว้ในที่ของเขา

ครั้งต่อมาเมื่อปี ค.ศ 1955 หลังกัมพูชาได้รับเอกราชจากอาณานิคมฝรั่งเศสแล้ว พระเจ้านโรดม สีหนุ ได้โปรดให้ นายพล เข็มเพชร ดาบชวน หรือนายดาบ ชวน ให้เป็นเจ้าเมืองปกครองสองเมืองคือ จังหวัดเสียมเรียบ และกัมปงธม นายพล ดาบ ชวน เป็นคนบ้าอำนาจและดุเดือด ทำร้ายประชาชนมามากมาย ประชนก็ไม่ค่อยรักและนับถือเท่าไร

โดยรู้ว่าพระเนียงเจกเนียงจอมศักดิ์สิทธิ์ นายดาบ ชวน ก็สั่งให้ทหารไปปล้นเอาไว้มาสักการะที่บ้านของตัวเอง พระหนึ่งองค์ต้องใช้ทหารอย่างน้อย 5 คนถึงจะยกขึ้น นายดาบ ชวน เคารพนับถือ และสักการะพระสององค์นี้เป็นอย่างมาก

มีคนเล่าว่า นายต้องทำพิธีสักการะ พระเนียงเจก เนียงจอม ทุก ๆ วัน และทำพิธีเป็นชั่วโมง ๆ อีกด้วย นายก็เลยมีพลังเหนือคนในโลกโดยสามารถยกพระทั้งสององค์ขึ้นแบกเดินไปมาได้อย่างง่ายแต่เพียงคนเดี่ยว

ในเวลาต่อมาเมื่อ นายดาบ ชวน รู้ว่าพระเจ้านโรดมสีหนุ จะฆ่าต้นในข้อหากบฏ แล้วนายก็คิดแผนหนีไปทางประเทศไทยโดยนำเอาพระทั้งสององค์ไปด้วย แต่ปรากฎว่ายกไม่ขึ้นเลย ชาวบ้านเล่าว่าที่ยกไม่ขึ้นเพราะสาเหตุ นายพลดาบ ชวน กบฏชาตินั้นเอง พระเนียงเจก เนียงจอม เลยไม่ปกป้องอีกแล้ว

นายดาบ ชวน ถูกทหารจับตัวได้ในเขตจังหวัดอุดรมีชัย เดิมเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเสียมเรียบ แล้วก็ประหารในเวลาต่อมา นายดาบ ชวน เป็นคนจอมขมังเวท ฆ่าตายยาก ผู้สั่งหารหาหลายวิธีจนกว่าจะฆ่าได้

ต่อมาในยุคของเขมรแดงช่วงปี ค.ศ 1975-1979 พระทั้งสององค์ถูกกลุ่มทหารเขมรแดงนำไปโยนทิ้งในแม่น้ำเสียมเรียบแล้วจมลงในแม่น้ำ ในเวลาไม่กี่วันกลุ่มทหารที่นำพระทั้งสององค์ไปโยนทิ้งนั้นก็ตายกันหมด

ในปี ค.ศ 1982 เจ้าโอวาสวัดดำนักและท่านผู้ว่าจังหวัดได้สร้างอาศรมเล็กๆใกล้พระราชตำหนักหลวง แล้วได้อัญเชิญพระทั้งสององค์มาประดิษฐานไว้ในอาศรมนี้ ต่อมาในปี ค.ศ 2004 ท่านรัฐมนตรีกระทรวงพานิชได้ให้งบส่วนตัวเพื่อสร้างอาศรมแห่งนี้ให้กว้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่มาสักการะ และทำพิธีง่ายได้ง่ายขึ้น

ปัจจุบันอาศรมพระเนียงเจก เนียงจอม มีผู้มารับพร ขอความสุข ความเจริญ และความสำเร็จกัน วันละร้อยๆคน โดยเฉพาะวันพระคนมาขอพรเยอะที่สุด